จากลีก วันสู่ยูไนเต็ด… ความเป็นมาในอาชีพค้าแข้งของชไนเดอร์ลิน
14 กรกฏาคม 2558 4,587
เรื่องราวของ มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน นั้นมีทั้งขาขึ้น และขาลงนับตั้งแต่ที่เขาย้ายจากฝรั่งเศสมาเล่นให้กับเซาแธมป์ตันเมื่อปี 2008
ชไนเดอร์ลินถูกแมวมองทีมนักบุญค้นพบจากการเล่นให้กับทีมท้องถิ่นของเขาคือสตราสบวร์ก ซึ่งเขาเพิ่งลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ไปได้แค่ 5 เกมเท่านั้น ก่อนที่จะข้ามน้ำข้ามทะเลมาค้าแข้งที่อังกฤษ
ด้วยอายุแค่ 18 ปี มิดฟิลด์รายนี้ก็ได้แสดงให้เห็นว่ามีความสามารถเกินตัว แฟนๆ ที่อังกฤษได้รับรู้ถึงความยอดเยี่ยมของชไนเดอร์ลินมาแล้วในช่วงที่เขาเล่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศสชุดยู-18 ที่มาเตะอุ่นเครื่องที่สนามวิคตอเรีย พาร์ค ของฮาร์ทลี่พูล เมื่อเดือนกันยายน 2006 ก่อนหน้านี้เขาก็เคยเล่นให้กับชุดยู-16 และยู-17 มาด้วย ก่อนที่จะจะเลื่อนไปในระดับยู-19 เช่นกัน
ชไนเดอร์ลินประเดิมสนามกับเซาแธมป์ตันในเกมกับคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ เมื่อเดือนสิงหาคม 2008 แต่ฤดูกาลแรกในถิ่นเซนต์ แมรี่ส์ของเขาก็น่าผิดหวัง เมื่อสโมสรตกชั้นไปสู่ลีก วัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ย้ายหนีออกจากสโมสร ชไนเดอร์ลินเลือกที่จะอยู่ต่อเพื่อช่วยทีมกลับขึ้นมาให้ได้ เขาทำประตูแรกให้สโมสรได้ในเดือนเมษายน 2010 เป็นเกมที่ทีมนักบุญบุกชนะบริสตอล โรเวอร์ส 5-1 รวมแล้วในฤดูกาล 2009/10 เขาได้ลงเล่นให้กับทีมมากถึง 37 เกม
เขาได้สถาปนาตัวเองเป็นนักเตะตัวจริงของเซาแธมป์ตันไปแล้ว ชไนเดอร์ลินช่วยให้สโมสรเลื่อนชั้นจากลีก วันขึ้นมาได้สำเร็จในช่วงท้ายฤดูกาล 2010/11 และนักเตะชาวฝรั่งเศสก็กลายเป็นกำลังสำคัญของทีมในการทึกศีกแชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2011/12 นั่นถือเป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมของเขา เพราะท้ายที่สุดทีมนักบุญก็ได้เลื่อนชั้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นการไปเตะในบาร์เคลย์ส พรีเมียร์ ลีก
ชไนเดอร์ลินจะได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองในลีกสูงสุด และเขาก็แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก ก่อนหน้านี้เขาเคยยิงได้นอกบ้านมาแล้วให้กับเซาแธมป์ตัน แต่ในที่สุดประตูแรกในถิ่นเซนต์ แมรี่ส์ของเขาก็มาถึงในเดือนสิงหาคม 2012 เป็นเกมที่เจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเกมนั้นทีมปีศาจแดงต้องพลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะจากแฮตทริคของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ด้วยสกอร์ 3-2
ชไนเดอร์ลินพลาดการลงเล่นในลีกไปแค่ 2 เกมเท่านั้นในฤดูกาลดังกล่าวที่เซาแธมป์ตันจบอันดับที่ 14 ซึ่งเขาก็ได้การยอมรับในฝีเท้าอย่างกว้างขวางเมื่อเป็นคนที่มีสถิติแย่งบอลและเข้าปะทะมากที่สุดตลอดฤดูกาล 2012/13 ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของเซาแธมป์ตันทั้งจากการโหวตโดยแฟนๆ และเพื่อนร่วมทีม
ฤดูกาลต่อมาคือ 2013/14 ชไนเดอร์ลินลงเล่นไป 36 เกม และสโมสรก็จบอันดับที่ 9 จากนั้นเขาก็ถูกเรียกติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่เป็นครั้งแรกโดยเฮ้ดโค้ช ดิดิเยร์ เดส์ช็องส์ ในเกมที่เสมอกับจาไมก้าแบบไร้สกอร์เมื่อเดือนมิถุนายน ขณะที่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เขาได้ลงเล่น 1 เกม เป็นเกมที่จบ 0-0 เช่นกัน คราวนี้เจอกับเอกวาดอร์ ซึ่งเพื่อนร่วมทีมในอนาคตของเขาอย่าง อันโตนิโอ วาเลนเซีย ถูกไล่ออก
ชไนเดอร์ลินยังสานต่อฟอร์มอันยอดเยี่ยมต่อไปได้ในระดับสโมสรสำหรับฤดูกาล 2014/15 เขาลงเล่นไป 25 เกม ช่วยให้เซาแธมป์ตันคว้าตั๋วไปเล่นยูโรปา ลีก ด้วยอันดับที่ 7 บนตาราง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ดาวเตะชาวฝรั่งเศสคงหวังที่จะไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีกมากกว่ากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมกับเพิ่มเติมเรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อต่อไปในอาชีพค้าแข้งของเขา หลังจากที่ได้เป็นนักเตะหน้าใหม่คนที่ 4 ของ หลุยส์ ฟาน กัล ในช่วงซัมเมอร์ 2015 นี้
SiR KeaNo
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC